Phi yim
- 1. 1
“พี่ยิ้ม”
โดย เกษียร เตชะพีระ
อิเมลดา มารคอสจุมพิตโลงแกวเก็บศพฉีดดองของสามีกอนเปดฉากรณรงคหาเสียงตนปนี้
เมื่อวันที่ ๙ พ.ค. ศกนี้สํานักขาวบีบีซีไดสมภาษณนางอิเมลดา มารคอสภรรยามายวัย ๘๐ ปของอดีต
ั
ประธานาธิบดี-จอมเผด็จการเฟอรดินานด มารคอสแหงฟลิปปนส (ผูชนะเลือกตั้ง ๒ ครั้งนับแต ค.ศ. ๑๙๖๕
แตหันมาประกาศกฎอัยการศึก ระงับรัฐธรรมนูญ ยุบสภาและรวบอํานาจปกครองเบ็ดเสร็จจาก ค.ศ. ๑๙๗๒
– ๘๖ จนถูกการปฏิวัตโดยอํานาจประชาชน – People Power Revolution – โคนขับออกนอกประเทศ)
ิ
เธอลงสมัครและเพิ่งไดรับเลือกตั้งเปน ส.ส. จังหวัด Ilocos Norte ซึ่งเปนบานเกิดของตระกูลมารคอสใน
เดือน พ.ค. ที่ผานมา
ตอนหนึ่งของคําสัมภาษณ อิเมลดาผูผานประสบการณการเมืองมาโชกโชนไดกลาวสรุปแกนแท
ของ “อํานาจ” ใหฟงวา: ‐
“เมื่อมารคอสประกาศกฎอัยการศึกได ๓ ปและยังไมสั่งประหารชีวิตใครเลยสักคน ฉันเขาไปหาเขา
แลวบอกวา ‘เฟอรดินานด จะมีอํานาจไวเพื่ออะไรเมื่อคุณไมแมแตสั่งประหารชีวิตใครเลยสักคน?’
“เขาบอกกับฉันวา: ‘อิเมลดา ศิลปะในการใชอํานาจนันนะคือไมมวันที่จะใชอํานาจ แตตองใหมัน
้ ี
เปนที่รูสึก มันก็เหมือนปนทีมีกระสุนพันนัดนะแหละ พอเธอใชปนเขา เธอก็จะไมมกระสุนพันนัด
่ ี
อีกตอไป เธอจะเหลือแค ๙๙๙ นัด ศิลปะในการใชอํานาจก็คือไมมวันใชอํานาจ แตตองใหมันเปนที่
ี
รูสึก’”
(ดูวดิโอสัมภาษณนางอิเมลดา มารคอสไดที่ news.bbc.co.uk/2/hi/asia‐pacific/8670594.stm
ี
โดยเฉพาะนาทีที่ ๑:๑๒ – ๑:๔๒)
- 2. 2
รัฐบาลของนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะเพิ่งใช “อํานาจ” ภาวะฉุกเฉินที่ยงผลใหมีคนตายไปทั้งสิ้น
ั
๘๘ คน บาดเจ็บ ๑,๘๘๕ คน
นาสงสัยวาตอนนี้รัฐบาลเหลือ “อํานาจ” เทาไหรกัน? ไมเพียงเฉพาะอํานาจยิงของปนที่สิ้นเปลือง
กระสุนไปเทานั้น แตท่สําคัญคืออํานาจในการครองใจประชาชน ใหพวกเขายอมทําตามคําสั่งรัฐบาล เพราะ
ี
เห็นวานี่เปนรัฐบาลของพวกเขาเอง
ถามองแบบอิเมลดา “อํานาจ” นั้นก็ลดถอยนอยลงไป ๘๘ ศพกับอีก ๑,๘๘๕ คน ยังไมนับญาติมิตร
และผูเห็นอกเห็นใจคนเหลานั้น อีกทั้งผูเรียกรองตองการความจริงและความยุติธรรมในประเทศและทั่วโลก
ดูเหมือนจํานวนผูบาดเจ็บลมตายรวม ๒ พันคนจะเปน “ความดีความชอบ” เพียงอยางเดียวของ
รัฐบาลในการบริหารจัดการความขัดแยงในบานเมืองรอบ ๒ เดือนที่ผานมา
และรัฐบาลที่มี “อํานาจ” เหลือแคน้และมี “ความดีความชอบ” ตอประเทศและประชาชนไทยอยาง
ี
แสนสาหัสขนาดนี้กยังออกอาการลุแกอํานาจ เที่ยวขมเหงรังแกไลลาจับกุมคุมขังฝายตรงขามทางการเมือง
็
ทั่วประเทศดวยขอกลาวหารายแรงอยาง “กอการราย” และ “ลมเจา” โดยที่ในหลายกรณีไมปรากฏหรือ
แสดงพยานหลักฐานอยางชัดเจน
ถามจริง ๆ เถอะผูบริหารรัฐบาลบาอํานาจหรือกลัวผลกรรมตามสนองจนสติแตกไปแลวหรือไง?
โดยเฉพาะอยางยิ่งการโฆษณาสั่งการประณามถากถางทางทีวีอยูปาว ๆ ขางเดียวดังมีวาจาสิทธิ์วัน
ละหลายเพลานั้นนาน ๆ เขาอาจสงผลขางเคียงใหเคลิบเคลิ้มจนพูดจาเลอะเทอะสมองเละเทะเปนวุนเจเลได!
ผูเขียนกับอ.สุธาชัยแถลงขาวคัดคานโครงการโรงไฟฟาถานหินบอนอก-บานกรูด (๒๕๔๕)
- 3. 3
กรณี “พียิ้ม” หรือผูชวยศาสตราจารย ดร. สุธาชัย ยิ้มประเสริฐแหงภาควิชาประวัติศาสตร คณะ
่
อักษรศาสตร จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัยถูกศอฉ.กลาวหาจับกุมคุมขังเปนอีกตัวอยางหนึ่งของอาการลุแก
อํานาจดังกลาว
ผมรูจักพี่ยิ้มมานานตั้งแตครั้งเรียนหนังสือและทํากิจกรรมรวมกันที่ธรรมศาสตรหลัง ๑๔ ตุลาฯ
๒๕๑๖ ไดผานประสบการณสารพัดมาดวยกันไมวารัฐประหารและฆาหมู ๖ ตุลาฯ ๒๕๑๙, เขาปาตอสูเผด็จ
การ, ออกจากปากลับมาเรียนหนังสือ, ทํางานฝายขาวตางประเทศกองบก.หนังสือพิมพเศรษฐกิจการเมืองที่มี
พี่วิชัย บํารุงฤทธิ์เปนบก.และพี่ปรีดี บุญซื่อเปนหัวหนาฝาย ฯลฯ
กอนจะแยกยายไปสอนหนังสือและเรียนตอคนละที่ละทางโดยผมเขาสอนที่รัฐศาสตร ธรรมศาสตร
และไปเรียนตอมหาวิทยาลัยคอรแนล สหรัฐอเมริกา สวนพี่ยิ้มเขาสอนทีอักษรศาสตร จุฬาฯและไปเรียนตอ
่
มหาวิทยาลัยบริสทอล ประเทศอังกฤษ
ครั้นกลับมาเจอกันที่เมืองไทย ก็ยังไดรวมงานวิชาการและกิจกรรมกันเปนระยะสืบมา
ในฐานะเพื่อนเกาแก ผมมีเรื่องอยากบอกเลาเกี่ยวกับพียม ๒ – ๓ อยางคือ: ‐
่ ิ้
๑) พี่ยิ้มเปนนักวิชาการทางประวัติศาสตรทมีคุณภาพชันแนวหนาและใสใจคนควาวิจยจริงจัง
ี่ ้ ั
กอนจะมาเปนนักวิชาการ พียิ้มเปนนักหนังสือพิมพมากอน ผมเห็นวาจุดเดนคือพี่ยิ้มไดใชทักษะ
่
สืบสวนสอบสวนแกะรอยเสนสายสัมพันธในกองทัพแบบนักขาวสายทหารมาประยุกตวิเคราะหเครือขาย
สายสัมพันธของกลุมทหารในประวัติศาสตรการเมืองไทยสมัยใหมตงแตคณะราษฎร ๒๔๗๕ มาจนถึงคณะ
ั้
รัฐประหาร ๒๔๙๐ และคณะปฏิวัติ ๒๕๐๑ วาแบงกลุมแบงสายเชื่อมโยงกับนักการเมืองพรรคฝายตาง ๆ
รวมทั้งนักหนังสือพิมพและนักเคลื่อนไหวมวลชนอยางไร
ผลงานคนควาวิจัยทีวานี้ปรากฏเปนวิทยานิพนธมหาบัณฑิตดานประวัติศาสตรของพี่ยิ้มเรื่อง “การ
่
เคลื่อนไหวทางการเมืองที่ตอตานรัฐสมัยจอมพลแปลก พิบูลสงคราม (พ.ศ. ๒๔๙๑ – ๒๕๐๐)” ซึ่งเสนอตอ
บัณฑิตวิทยาลัย จุฬาฯในป พ.ศ. ๒๕๓๒ และตอมาตีพมพเปนเลมชื่อ แผนชิงชาติไทย: วาดวยรัฐและการ
ิ
ตอตานรัฐสมัยจอมพลป.พิบูลสงครามครั้งที่สอง (พ.ศ. ๒๔๙๑ – ๒๕๐๐) (พิมพ ๒ ครั้งในป พ.ศ. ๒๕๓๔
และลาสุด ๒๕๕๐)
ในฐานะที่ผมเขียนวิทยานิพนธปริญญาเอกเกียวกับขบวนการปญญาชน-วัฒนธรรมฝายซายไทย
่
ในชวงดังกลาวเชนกัน (Commodifying Marxism: The Formation of Modern Thai Radical
Culture, 1927 – 1958) ผมไดใชประโยชนจากงานของพี่ยิ้มในการคนควาขอมูลและเขาใจการเมืองสมัย
- 4. 4
นั้นมาก และเห็นดวยเต็มทีกับการประเมินของอาจารยชาญวิทย เกษตรศิริในคํานําเสนอของหนังสือ แผนชิง
่
ชาติไทย ฉบับพิมพครั้งหลังวางานของพียมเลมนี:
่ ี้ ้
“นาจะเปนหนังสือที่ดีที่สุด ละเอียดลออทีสุด เปนวิชาการที่สุดที่เรามีอยูในภาษาไทยเกี่ยวกับ
่
‘รัฐประหาร ๒๔๙๐’ และ ‘ระบอบทหาร/ระบอบพิบูลสงคราม’ กับการเมืองไทยในชวง พ.ศ.
๒๔๙๑ – ๒๕๐๐ อันมีอํามาตยาธิปไตยทหารเปนผูนํา”
งานคนควาวิจยและเปนที่ปรึกษาวิทยานิพนธในชั้นหลังของพี่ยิ้มก็พยายามสืบสานตอจากที่ทําไว
ั
เดิมโดยเฉพาะเรื่องประวัติศาสตรขบวนการสังคมนิยม-คอมมิวนิสตในประเทศไทยและระดับโลก, ขบวน
การนักศึกษาประชาชนชวงกอนและหลังเหตุการณ ๑๔ ตุลาฯ ๒๕๑๖, การรับขอมูลและสืบพยานเหตุการณ
๖ ตุลาฯ ๒๕๑๙, การเขาปาของนักศึกษาปญญาชนและความขัดแยงแตกแยกในขบวนการคอมมิวนิสตไทย
หลัง ๖ ตุลาฯ เปนตน (ดูรายละเอียดไดท่ี www.arts.chula.ac.th/~history/viewteacher.php?id=5)
และยังมีวิทยานิพนธปริญญาเอกของพี่เรื่อง “Portuguese Lançados in Asia in the sixteenth
and seventeenth centuries” (ค.ศ. ๑๙๙๘) กลาวไดวาพี่ยิ้มนาจะเปนนักประวัติศาสตรไทยรุนปจจุบันคน
เดียวที่เรียนรูภาษาโปรตุเกสและคนควาวิจยประวัติความสัมพันธสยาม-โปรตุเกสสมัยอยุธยามาโดยตรง
ั
๒) พี่ยิ้มเปนผูรักความเปนธรรมและสังคมประชาธิปไตยอยางแนวแนมนคง
ั่
สวนหนึ่งคงเปนเพราะประสบการณครบเครื่องในอดีตในฐานะ “คนเดือนตุลาฯ”,ประกอบกับ
ศรัทธามั่นคงตออุดมการณสังคมประชาธิปไตย (social democracy) และความรูความเขาใจบทเรียนจาก
ประวัติศาสตรการเมืองไทยสมัยพุทธทศวรรษที่ ๒๔๙๐ อยางลึกซึ้ง ดังนั้นนอกจากสอนหนังสือและทํางาน
วิชาการแลว พียิ้มก็ยงสนับสนุนเขารวมการเคลื่อนไหวประทวงของชาวบาน-ชุมชน-คนงานผูเสียเปรียบและ
่ ั
ลุกขึ้นเรียกรองความเปนธรรมเปนนิจศีล ไมวาสมัชชาคนจน, กลุมชาวบานอนุรักษบอนอก-บานกรูด,
คนงานหญิงไทรอัมพ, พรรคแนวรวมสังคมประชาธิปไตย เปนตน
เดิมทีพ่ยิ้มก็คดคานนโยบายและการกระทําบางดานของรัฐบาลทักษิณ เชน การสงทหารไทยไปอิรก
ี ั ั
และโดยเฉพาะอยางยิ่งกรณีฆาหมูท่ตากใบ เมื่อมีการเคลื่อนไหวตอตานรัฐบาลทักษิณระยะแรก พี่ยิ้มจึงเห็น
ี
ดวย แตพอพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยและคุณสนธิ ลิ้มทองกุลหันไปเรียกรองใหถวายพระราช
อํานาจคืนโดยอางมาตรา ๗ ในรัฐธรรมนูญ ๒๕๔๐ พียมก็รับไมไดและเปลี่ยนทาที เพราะมันซ้ํารอยวิธีการ
่ ้ิ
ที่พวกขวาจัด-อนุรักษนยมในอดีตอางอิงสถาบันกษัตริยสมัยรัชกาลที่ ๗ มาขัดขวางทําลายเคาโครงเศรษฐ-
ิ
กิจแนวสังคมนิยมของอาจารยปรีดี พนมยงคเมื่อป พ.ศ. ๒๔๗๖ และตอมาก็ฉวยใชกรณีสวรรคตของรัชกาล
- 5. 5
ที่ ๘ มาใสรายปายสีอาจารยปรีดีและกอรัฐประหารโคนระบอบประชาธิปไตยลงเมื่อป พ.ศ. ๒๔๙๐ อันเปน
บทเรียนเลวรายทางประวัติศาสตรที่พ่ยิ้มคนควาศึกษามาโดยตรง
ี
รัฐประหารของ คปค. เมื่อ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๙ ที่อางเหตุประการหนึ่งวาเพราะรัฐบาลทักษิณ
กระทําการ “หมิ่นเหมตอการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแหงองคพระมหากษัตริย” จึงยอมเหมือนตอกย้ําลง
ไปวาประวัติศาสตรรัฐประหาร ๒๔๙๐ กําลังเกิดซ้ํารอยตอหนาตอตาอีกครั้งหนึ่งแลว และทําใหพี่ยิ้มออกมา
เคลื่อนไหวตอตานการรัฐประหารครั้งนั้นรวมกับขบวนการ นปก.-นปช. ในที่สด
ุ
๓) พี่ยิ้มเปนคนซื่อตรงจริงใจตอความเชื่อของตัวและมีทาทีการเมืองแบบเดินสายกลาง
พี่ยิ้มเปนคนจริงใจ ซื่อ ๆ ตรง ๆ การเคลื่อนไหวทางการเมืองของพี่กเ็ ริมจากความเชือดังกลาว
่ ่
ขางตนอยางบริสุทธิ์ใจ ทําไปตามความเชือและสิทธิเสรีภาพตามกฎหมายที่พึงมี โดยไมคานึงถึงชือเสียง
่ ํ ่
อํานาจและผลประโยชนสวนตัว บอยครั้งจึงอาจถูกเขาใจผิด มองไปทางรายและเขาเนื้อเสียหายได แตเอาเขา
จริงพี่ย้มเปนคนที่เดินสายกลางหรือ moderate ทางการเมือง ไมไดตั้งเปาเรียกรองอยางสุดโตงสุดขั้วหรือ
ิ
ถอนรากถอนโคนแตอยางใด พูดจาโตเถียงออกจะนิ่ม ๆ ทื่อ ๆ ตะกุกตะกักติด ๆ ขัด ๆ บางดวยซ้ําไป
การที่ชื่อพี่ยิ้มไปโผลหราในแผนผังเครือขายลมเจาของ ศอฉ. จึงเปนเรืองชวนฮาเหลวไหลสิ้นดี
่
เพราะเอาเขาจริงยังมีนักวิชาการรายอื่นที่แสดงทรรศนะตอตานรัฐประหาร คปค. อยางสุดโตงสุดขั้วถอน
รากถอนโคนดุเดือดเลือดพลานเสียวไสกวาพี่ยิ้มมากและตอมาเมื่อเปลี่ยนรัฐบาล เขาก็ไดลาภยศตําแหนง
ตอบแทนตามสมควร จนถึงแก ส.ว. คํานูณ สิทธิสมาน เคยรองทัก แตเขากลับไมปรากฏชื่อในแผนผังศอฉ.
หรือจะเปนเพราะวาหนังสือตานรัฐประหารเลมโดงดังของนักวิชาการทานนั้น ตีพิมพเผยแพรโดย
สํานักพิมพ “อะอาอั๊ด” ซึ่งวากันวาไดเม็ดเงินหนุนหลังทั้งที่ขาดทุนเดือนละเปนแสนจากบิ๊กการเมืองชื่อ
“เออิน” คนเดียวกับที่มีภาพถายยืนโอบกอดเลาโลมกับ ฯพณฯ ผูนารัฐบาลผสมชุดนี้เมื่อแรกตั้งรัฐบาลลง
ํ
หราในหนังสือพิมพหลายฉบับนั่นแหละ?
ใครจะไปรูวาขืนใสชื่อนักวิชาการทานนั้นลงแผนผังฯไปดวย ก็อาจมีคนทะลึ่งลากเสนเชื่อมโยงตอ
จนเลยเถิดถึง ฯพณฯ ผูนํารัฐบาลเขาใหจนได มันก็จะ “อิบอาย” กันไปใหญเทานันเอง!?!
๊ ้
การเลนรังแกพี่ยิ้มดวยการเอาชื่อแกใสแผนผังฯ, จับกุมคุมขัง, และยึดหนังสือตําราวิชาการไมใหแก
อานเตรียมสอนตามหนาที่รบผิดชอบของอาจารย จึงสะทอนลักษณะ “เจเล” ของมันสมอง ศอฉ. ยิ่งกวาอื่น
ั
ไมอยากเชื่อเลยวานี่คือวิธีการใชอํานาจของคนที่เคยเปนอาจารยมหาวิทยาลัยเดียวกับผม!